วันศุกร์, ธันวาคม 27, 2024

Business

AGJA จับมือพันธมิตร ดันอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับโตอย่างยั่งยืน  

 

 

สมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน (AGJA) มุ่งสร้างเครือข่ายกับสมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน 19 ประเทศ ประสานความร่วมมือในกลุ่มอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างแข่งแกร่งและยั่งยืน พร้อมจัดพิธีลงนามข้อตกลงทางการค้า (MOU) แต่งตั้ง China Gems & Jade Exchange: CGE เป็นตัวแทน AGJA รับสมัครสมาชิกในจีน และพาสมาชิกร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติครั้งใหญ่ของจีน China International Import Expo 2024 (CIIE) ขยายโอกาสตลาดส่งออกสู่จีน และแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้า การลงทุน เทคโนโลยีการผลิตให้กับสมาชิก

นายสุทธิพงษ์ ดำรงค์สกุล นายกสมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน (ASEAN Gems and Jewellery Trade Association: AGJA) เปิดเผยว่า สมาคมฯ ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาคอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บูรไน และประเทศไทย นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังมุ่งสร้างเครือข่ายพันธมิตรนอกภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยสมาคมฯ ทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางระดับนานาชาติ เชื่อมโยง แบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้า รวมทั้ง ประสานความร่วมมือกันในกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

 

ปัจจุบัน สมาคมฯ มีสมาชิกแล้วกว่า 100 ราย เป็นผู้ประกอบการค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ โดยสมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์เข้าร่วม AGJA International Club: AIC สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการค้า ตลาด การลงทุน ระบบภาษี แหล่งวัตถุดิบ จากประเทศสมาชิกของสมาคมฯ มีสิทธิ์เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียนที่ทางสมาคมฯ เป็นผู้ร่วมจัดงาน นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมายที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุนสมาชิกเพิ่มโอกาสทางการค้า การลงทุน ต่อยอดธุรกิจ ขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ ผ่านเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งได้

 

ในปี 2567 นี้ สมาคมฯ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสมาชิกร้อยละ 300 ราย โดยสมาคมฯ มุ่งสร้างเครือข่าย มองหาโอกาสทางการค้าใหม่ๆ เพื่อเป็นสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิก พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมให้เติบโต โดยล่าสุด สมาคมฯ ได้ลงนามแต่งตั้ง China Gems & Jade Exchange: CGE เป็นตัวแทนสมาคมฯ เพื่อเปิดรับสมัครสมาชิกในประเทศจีน คาดว่าจะมียอดสมาชิกจากประเทศจีนกว่า 200 ราย ในปี 2567 นี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกโดยรวม ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล นวัตกรรม เทคโนโลยีการผลิต รวมทั้ง รับผลประโยชน์ทางการค้าการลงทุน

 

สมาคมฯ ยังลงนามความร่วมมือกับ China Gems & Jade Exchange: CGE เพื่อเป็นพาร์ทเนอร์พาสมาชิกไปร่วมงาน China International Import Expo 2024 (CIIE) ที่จะจัดขึ้นวันที่ 5-10 พฤศจิกายน 2567 ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งงาน CIIE เป็นงานแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อเจรจาการค้าและส่งเสริมการนำเข้าตามนโยบายการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจของจีน เป็นเวทีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก

จีนนับเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาเซียน มีมูลค่าการค้าแบบทวิภาคี 669,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2564 และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 29 ตามข้อมูลจาก World Economic Forum ซึ่งจีนมีความต้องการ อัญมณีเครื่องประดับในกลุ่มทับทิม แซปไฟร์ และมรกต เป็นของขวัญและเพื่อการลงทุนกันมากขึ้น นอกจากตลาดจะมีความน่าสนใจแล้ว จีนยังมีเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าที่สมาชิก AGJA จะได้รับประโยชน์จากการลงนามความตกลงทางการค้าในครั้งนี้

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังร่วมมือกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (The Gem and Jewelry Institute of Thailand (Public Organization) :GIT) สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งเอเชีย (Asian Institute of Gemological Sciences: AIGS) เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกสมาคมในการตรวจสอบคุณภาพอัญมณีและเครื่องประดับ การเข้าศึกษาหลักสูตรนักอัญมณีศาสตร์ การสัมมนาวิชาการเกี่ยวกับอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ผลิต ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับ

 

ติดตามข่าวสารของสมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน (ASEAN Gems and Jewellery Trade Association: AGJA) และสมัครสมาชิกได้ที่ https://www.agja.biz/