ก้าวเข้าสู่ปีที่ 19 แล้วสำหรับโครงการ Designers’ Room & Talent Thai จัดโดยสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โครงการนี้เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่ทั่วประเทศ ทั้งกลุ่ม Creative Entrepreneur ที่ผลิตสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ และกลุ่ม Creative Studio ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ให้บริการด้านการออกแบบ ได้แสดงความสามารถดึงศักยภาพที่มีสร้างสรรค์ สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนตัวตน ก้าวสู่การเป็นแบรนด์นักออกแบบหรือผู้ประกอบการการค้าระหว่างประเทศ ระดับมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยในปีนี้ดำเนินการภายใต้คอนเซปต์ “MAXIMIZE DIVERSITY SHIFT CREATIVITY BEYOND BORDERS พลังแห่งความหลากหลาย ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ให้เหนือขอบเขต”
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางกรมฯมุ่งมั่นที่จะยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ, นักออกแบบไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลในเชิงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในการเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยการออกแบบ นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริม
ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย ใช้กลยุทธ์ตลาดนำการผลิต ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) รวมไปถึงการส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่หรือ BCG โมเดล ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมเพื่อลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเน้นการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่ม High Value Added เพื่อสร้างความแตกต่างให้สินค้าไทยด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยในการขับเคลื่อนธุรกิจและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์สินค้าไทย ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าของประเทศ ไทยขยายตัวอย่างเข้มแข็ง ส่งผลดีต่อรายได้ของประชาชนทั้งจากมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย”
นางสาวประอรนุช ประนุช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กล่าวเสริมอีกว่า “โครงการ Designers’ Room & Talent Thai ดำเนินงานโครงการมาเป็นระยะเวลากว่า 19 ปี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้นัก ออกแบบไทยรุ่นใหม่ทั่วประเทศที่มีศักยภาพได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่การเป็นแบรนด์นักออกแบบ หรือผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศระดับมืออาชีพ พร้อมต่อยอดธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมา มีนักออกแบบเข้าร่วมโครงการกว่า 528 แบรนด์ และได้สร้างนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลกเป็นจำนวนมาก ตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Community นักออกแบบผ่านกิจกรรมการสร้างเครือข่าย และยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักออกแบบไทยที่พัฒนาทุกปี สอดคล้องไปกับการพัฒนาหลักสูตรของโครงการที่ปีนี้ มุ่งเน้นเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้กับนักออกแบบ ไทยในการพัฒนาตนเองให้สามารถออกแบบสินค้าในเชิงพาณิชย์ โดยทางกรมได้มีการบูรณาการองค์ความรู้ร่วมกับทางภาคเอกชน และมีการวางแนวทางการเสริมทักษะของนักออกแบบไทยให้มีการสร้างสรรค์ผลงานบนพื้นฐาน ความคิดของเศรษฐกิจยุคใหม่ (New Economy) ใน 4 ประเด็น ได้แก่ Local to Global, Circular Economy, Digital Economy และ Creative Economy ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ทางค้าของไทยในการเป็นประเทศที่ผลิตสินค้าที่มีการออกแบบที่ดีสู่การเป็นผู้นำด้านการออกแบบในระดับสากล”
โดยโครงการ Designers’ Room & Talent Thai Promotion 2021 ในครั้งนี้ได้เปิดรับนักออกแบบไทยทั่วประเทศ เพื่อเข้าร่วมโครงการ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม พิจารณาจากรูปแบบของผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ‘Designers’ Room’ กลุ่มสินค้าแฟชั่น อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ และ ‘Talent Thai’ กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ อาทิ ของขวัญ ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ของใช้สัตว์เลี้ยง และล่าสุดในปีนี้ได้เปิดโอกาสให้กับกลุ่ม Creative Studio ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ให้บริการด้านการออกแบบ (Design Service) ได้แก่ Industrial Design, Packaging Design, Illustration, Character Design, Craftwork & Decorative Item, Graphic Design และ Branding & CI ไ ด้ ส มั ค ร เ ข้ า ร่ ว ม โครงการเป็นครั้งแรก ทั้งนี้
นักออกแบบที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับโอกาสพัฒนาองค์ความรู้ ในหลักสูตรต่างๆ ดังนี้
– หลักสูตร”ความรู้พื้นฐานของการเป็นนักออกแบบระดับสากลสำหรับผู้ประกอบการ/นักออกแบบรุ่นใหม่” ส่งเสริมความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศยุคใหม่ อาทิ การสร้างแบรนด์ การตั้งราคา การจัดทำแผนธุรกิจ การพัฒนาช่องทางการตลาดดิจิทัล การสร้างความร่วมมือในการพัฒนาสินค้า เป็นต้น โดยเชื่อมโยงเนื้อหาบางส่วนกับสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ผลักดันสู่การเป็นนักออกแบบมืออาชีพที่พร้อมดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ และความรู้ด้านต่างๆ จากแบรนด์ดัง อาทิ BOYY BAG, ERB, GRAB, T-RA และ Marshall
– หลักสูตร”ค่ายบ่มเพาะนักออกแบบไทยสู่สากล”ที่ทาง DITP ได้มีการบูรณาการองค์ความรู้ในรูปแบบ
เวิร์กช้อป ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชน อาทิ SCG, PASAYA, DEESAWAT, PDM และ The Standard POP อีกทั้งยังมีกลุ่ม นักออกแบบรุ่นพี่ (Alumni Team) ที่มีประสบการณ์มาทำหน้าที่เป็น Mentor เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือในอนาคต และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สินค้าแนวสร้างสรรค์ พร้อมทั้งส่งเสริมให้นักออกแบบตระหนักถึงแนวทางการผลิตสินค้าที่เน้นตลาดเป็นตัวนำ (Demand Driven) ภายใต้บริบทการค้าโลกยุคดิจิทัลและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่อันเนื่องมากจาก สถานการณ์โควิด-19 เพื่อสร้างการพัฒนาสินค้าและธุรกิจที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ได้แก่ Circular Economy, Digital Economy, LOCAL & Creative Economy เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพในการพัฒนาตนเองและสร้างโอกาสทางการค้าในระดับสากล ให้กับนักออกแบบไทย ได้แก่
– Collaboration Project
โปรเจกต์พิเศษได้ความร่วมมือจากพันธมิตรอย่าง Limited Education องค์กรธุรกิจ
เพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่ช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา
มาร่วมสร้างโจทย์ให้แก่
นักออกแบบในโครงการ ได้ร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ข้ึนใหม่กับ
แบรนด์รุ่นพี่ท่ีเคยผ่านเข้าร่วมโครงการ (Alumni Team) โดยรายได้จากการ จำหน่ายสินค้าจะนาไปบริจาคเพื่อช่วยในเรื่องการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาส
– SHOPEE x Talent Thai & Designers’ Room Pop Up Store กิจกรรมทดลองตลาดแนวใหม่บน Shopee แพลตฟอร์ม
E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้นักออกแบบได้เสริมทักษะก้าวสู่ตลาด การค้าออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ สร้างมูลค่าเพิ่มทางการค้า และขยายฐานลูกค้าจากออฟไลน์สู่ออนไลน์
– World Class Business Opportunity ได้รับโอกาสทางการค้าในระดับสากล อาทิ งาน MAISON & OBJET แพลตฟอร์ม M.O.M ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส งาน MQ VIENNA FASHION WEEK ณ กรุงเวียนนา ออสเตรีย Fashion Showroom ในนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน และกิจกรรมงานอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Milan Design Week ประเทศอิตาลี งาน Taiwan Creative Expo ซึ่งล้วนเป็นงานที่สร้างชื่อเสียงและเพิ่มช่องทางทาง การค้าให้แก่นักออกแบบไทยสู่สายตาต่างชาติมากย่ิงขึ้น
– Domestic Trade Opportunity โอกาสทางการค้าในประเทศผ่านกิจกรรมสำคัญของ DITP อาทิ งาน STYLE Bangkok และ งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair เข้าร่วมกิจกรรม Online Business Matching(OBM) กับ Thaitrade.com รวมทั้งช่องทางการขายกับ SIAMPIWAT พันธมิตรของโครงการ
“Designers’ Room & Talent Thai Promotion 2021 เป็นโครงการที่สนับสนุนนักออกแบบไทยให้ปรับตัวก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และสามารถสื่อสาร ออกไปให้เกิดความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้ รวมทั้งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ ประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ในระดับแนวหน้าของโลก และพร้อมเข้าสู่การเป็น ศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในภูมิภาคเอเชีย” นางสาวประอรนุช กล่าวปิดท้าย
นักออกแบบที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Designers’ Room & Talent Thai Promotion 2021 ส่งเสริมนักออกแบบ ไทยสู่ตลาดโลก สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ – 1 เมษายน 2564 ติดตามรายละเอียดการรับสมัครเพิ่มเติมได้ ที่เฟสบุ๊ค Talent Thai & Designers’ Room หรือเข้าไปที่ www.ditp.go.th หรือโทร.1169